-
ฮิต: 28654
ประวัติความเป็นมาของศาสตร์การครอบแก้ว
การครอบแก้วเป็นศาสตร์ของจีนโบราณที่มีการบันทึกในหนังสือและมีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปีมาแล้ว แรกเริ่มจะใช้เขาของสัตว์ที่กลวงมาทำเป็นกล่องหรือลักษณะคล้ายแก้วแล้วนำมาต้มกับน้ำร้อน หรือมีการจุดไฟลนเพื่อให้เกิดสภาวะสุญญากาศ ต่อมาเปลี่ยนมาใช้เป็นถ้วยที่ทำจากไม้ไผ่หรือถ้วยแก้ว แต่ก็ยังต้องลนด้วยไฟหรือต้มกับน้ำเพื่อทำให้เกิดสุญญากาศในถ้วยแก้วแล้วนำมาครอบบำบัดบริเวณผิวหนังที่อักเสบ มีหนอง ดูดของเสีย สารพิษ ลิ่มเลือด หนองออกจากบริเวณดังกล่าว
ทฤษฎีเกี่ยวกับถ้วยดูดระบบสุญญากาศ
ทฤษฎีของการวางถ้วยแก้วในการบำบัดอาการโรคต่าง ๆ อาศัยการปฏิบัติงานของระบบสุญญากาศ โดยใช้ถ้วยแก้วลนด้วยไฟ เพื่อให้เกิดความกดดันของสุญญากาศ ความกดดันของสุญญากาศจะดึงดูดผิวหนังให้นูนสูงขึ้นบริเวณผิวหนังดังกล่าวจะเกิดปฏิบัติการทางพยาธิวิทยา ดังนี้ :-
1.บริเวณผิวหนังถูกกระตุ้น ถูกกดดัน ผลักดันเลือดลม ให้ไหลเวียนเข้ามาหล่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น
2.ผลักดันให้จุดต่าง ๆ ของเส้นลมปราณ เซลล์ของเส้นประสาท เซลล์ของเลือดเพิ่มประสิทธิภาพงานทางด้านพยาธิวิทยา
3.ผลักดันให้เม็ดเลือดขาวเคลื่อนตัวเข้ามากำจัดสิ่งแปลกปลอม สารพิษ เชื้อโรค ของเสียต่าง ๆ เหล่านี้ถูกขจัดออกจากผนังของหลอดเลือดประสานกับความกดดันของถ้วยดูด
4.การปฏิบัติงานของผิวหนัง ของเสียสารพิษบางส่วนจะถูกดูดออกจากรูขุมขนของผิวหนังโดยตรง สะท้อนออกเป็นไอน้ำ หยดน้ำเกาะติดอยู่กับผนังของถ้วยดูด บางส่วนจะถูกดูดมาเกาะติดอยู่กับผิวหนังที่หมุนเวียนอยู่ในระบบหลอดเลือดถูกขับออกจากร่างกายโดยทางปัสสาวะและอุจจาระ
5.ของเสียหรือสารพิษจะถูกขจัดออกจากร่างกายพร้อมกับเหงื่อ หรือสลายไปตามเลือดลมที่หมุนเวียนอยู่ในระบบหลอดเลือด ถูกขับออกจากร่างกายโดยทางปัสสาวะและอุจจาระ
6.ของเสียสารพิษต่าง ๆ ถูกขจัดออกจากผนังหลอดเลือด ผนังหลอดเลือดขยายกว้างขึ้น เลือดลมไหลเวียนอยู่ในระบบหลอดเลือด ถูกปรับเข้าสู่การหมุนเวียนอย่างมีระเบียบ
7.อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายได้รับเลือดลมมาหมุนเวียนหล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอปรับการปฏิบัติหน้าที่งานเข้าสู่ปกติและมีประสิทธิภาพ ทั่วทั้งร่างกายก็จะถูกปรับเข้าสู่สมดุล
ประโยชน์ที่ได้รับจากการครอบแก้วในการบำบัดรักษาโรค
1.มีผลต่อการเสริมสร้างสุขภาพต่อการป้องกันโรค หลังจากของเสียสารพิษต่าง ๆ ในร่างกายถูกดึงดูดออกจากร่างกายบริเวณผิวหนังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายก็จะได้รับเลือดมาหล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ การปฏิบัติหน้าที่งานที่พยาธิวิทยาของผิวหนังก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพ ของเสียสารพิษต่าง ๆ ภายนอกจะไม่สามารถแทรกซึมผ่านเข้าผิวหนังได้ง่ายภูมิคุ้มกันร่างกายก็จะแข็งแรงดีขึ้น
มีผลต่อการบำบัดโรคต่าง ๆ ในการครอบแก้วนี้ได้ผลคล้ายคลึงกับผลจากการนวดกดจุดสะท้อนฝ่าเท้า และนวดกดจุดตามเส้นลมปราณ ทำให้เกิดผลต่อการกระตุ้นปลุกเร้าถึงเซลล์ของเส้นประสาท ผลักดันให้เซลล์ประสาทปฏิบัติหน้าที่งานอย่างกระฉับกระเฉง และผลักดันให้เลือดไหลเวียนในหลอดเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลทำให้ผนังหลอดเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายด้วยวิธีการนี้จะทำให้เลือดที่คลั่งบริเวณจุดที่ปวดเกิดการไหลเวียนดีขึ้น การส่งผ่านออกซิเจนไปยังจุดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ส่งผลให้อาการปวดทุเลาลง
โรคหรืออาการที่รักษาด้วยการครอบแก้ว
การครอบแก้วสามารถแก้อาการต่าง ๆ ดังนี้ :-
- ไข้หวัด - ท้องผูก
- ปวดศีรษะ - นอนไม่หลับ
- โรคกระเพาะอาหาร - ความดันโลหิตสูง
- เบาหวาน - อัมพาต
- ไหล่ติด - ปวดเอว
- ไซนัส - คออักเสบ
- สิว - เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- ต่อมลูกหมากโต - วัยทอง
- ปวดประจำเดือน - อ้วน
-ปวดคอ บ่า ไหล่ - กรดไหลย้อน
ครอบแก้วทำได้ทั้งบริเวณหลัง หน้าท้อง หน้าอก ขา แขน หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่มีพื้นที่ในการวางครอบแก้ว และอวัยวะต่าง ๆ ที่มีอาการเจ็บปวด
ขั้นตอนและวิธีการบำบัดการครอบแก้ว
1. แพทย์จะตรวจหรือวินิจฉัยอาการเพื่อหาสาเหตุของการเกิดโรคเสียก่อน ด้วยวิธีศาสตร์การแพทย์แผนจีน
2. นำเอาถ้วยแก้วที่เตรียมไว้แล้วและนำสำลีมาชุบแอลกอฮอล์ไปจุดไฟ แล้วนำไฟเข้าไปใส่ในถ้วยแก้วเพื่อให้ภายในภาชนะนั้นเกิดระบบสุญญากาศ แล้วจึงรีบนำไปคว่ำไว้ยังอวัยวะต่าง ๆ ที่ต้องการของผู้ป่วย จากนั้นกล้ามเนื้อและผิวหนังก็จะถูกดูดหรือดึงขึ้นด้วยระบบสุญญากาศภายในภาชนะจนนูนขึ้น และผิวหนังก็จะเริ่มเปลี่ยนสีต่าง ๆ (อาจมีการใช้น้ำมันสมุนไพรทาผิวก่อนที่จะครอบแก้วเพื่อให้การเคลื่อนแก้วเป็นไปโดยง่ายขึ้น)
3. การครอบแก้วแต่ละครั้ง จะมีระยะเวลาประมาณ 10-15 นาที ซึ่งแต่ละคนก็จะมีสีผิวหนังที่แตกต่างกันออกไปตามอาการและการสะสมของสารพิษ เช่น อาจจะมีสีแดง สีน้ำตาล สีม่วง สีดำ เป็นต้น และสีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นก็จะค่อย ๆ เลือนรางจางหายไปภายใน 5-7 วัน สีของผิวที่ถูกครอบแก้วยังสามารถบ่งบอกถึงความรุนแรงและการปวดของบริเวณนั้น ๆ ได้อีกด้วย
ข้อห้าม ข้อควรระวัง
ปกติ 90% ของคนทั่วไป สามารถรับการรักษาแบบครอบแก้วได้ แต่กลุ่มคนที่ไม่ควรรับการรักษาด้วยวิธีนี้คือ สตรีมีครรภ์ในช่วงอายุครรภ์ 1-4 เดือน เพราะเมื่อตัวอ่อนในครรภ์เจอความร้อนหรือเกิดแรงกระตุ้นมาก ๆ อาจทำให้เกิดการฝ่อหรือหลุดได้ และอีกกลุ่มคือ ผู้ที่มีอาการติดเชื้อบริเวณผิวหนัง เพราะถึงแม้จะมีการทำความสะอาดอุปกรณ์มากเพียงใด แต่ถ้ามีโรคติดต่อหรือเชื้อโรคอยู่ การครอบแก้วก็อาจไปกระตุ้นให้เชื้อโรคนั้นเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
ระยะเวลาในการบำบัด
ในการบำบัดขึ้นอยู่กับอาการและดุลพินิจของแพทย์โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ควรบำบัดและรักษาเป็นชุด เพื่อให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรทำควบคู่กับการฝังเข็ม 1 ชุดการรักษา เท่ากับ 10 ครั้ง
ค่าใช้จ่ายในการบำบัดครอบแก้ว
ครอบแก้ว 1 ครั้ง ราคา 300 บาท
รายได้จากการรักษาพยาบาล
สมทบกองทุนโครงการหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ สำหรับ พระภิกษุ สามเณร ในพระราชูปถัมภ์ฯ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อพระภิกษุ และสามเณรอาพาธ โรงพยาบาล ๕๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ จังหวัดอุบลราชธานี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
• ศูนย์พรหมวชิรญาณ คลินิกการแพทย์แผนไทย-จีน
สาขาวัดยานนาวา
วันจันทร์-วันศุกร์ เปิดทำการเวลา ๑๐.๐๐-๑๙.๐๐ น.
วันเสาร์-วันอาทิตย์ เปิดทำการเวลา ๙.๐๐-๑๙.๐๐ น.
โทร. ๐-๒๖๗๓-๙๙๗๕~๖
• ศูนย์พรหมวชิรญาณ คลินิกการแพทย์แผนไทย-จีน
สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
วันจันทร์-วันอาทิตย์ เปิดทำการเวลา ๙.๐๐-๑๘.๐๐ น.
โทร. ๐-๒๕๗๙-๓๕๒๑, ๐-๒๕๖๑-๔๕๒๐
สถานพยาบาลได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข