-
วันอังคาร , มี.ค. 14 2560
ประวัติความเป็นมาของศาสตร์การครอบแก้ว
การครอบแก้วเป็นศาสตร์ของจีนโบราณที่มีการบันทึกในหนังสือและมีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปีมาแล้วแรกเริ่มจะใช้เขาของสัตว์ที่กลวงมาทำเป็นกล่องหรือลักษณะคล้ายแก้วแล้วนำมาต้มกับน้ำร้อนหรือมีการจุดไฟลนเพือให้เกิดสภาวะสุญญากาศต่อมาเปลี่ยนมาใช้เป็นถ้วยที่ทำจากไม้ไผ่หรือถ้วยแก้วแต่ก็ยังต้องลนด้วยไฟหรือต้มกับน้ำเพื่อทำให้เกิดสุญญากาศในถ้วยแก้วแล้วนำมาครอบบำบัดบริเวณผิวหนังที่อักเสบมีหนองดูดของเสียสารพิษลิ่มเลือดหนองออกจากบริเวณ ดังกล่าว
ทฤษฎีเกี่ยวกับถ้วยดูดระบบสุญญากาศ
ทฤษฎีของการวางถ้วยแก้วในการบำบัดอาการโรคต่างๆอาศัยการปฏิบัติงานของระบบสุญญากาศโดยใช้ถ้วยแก้วลนด้วยไฟ เพื่อให้เกิดความกดดันของสุญญากาศความกดดันของสุญญากาศจะดึงดูดผิวหนังให้นูนสูงขึ้น บริเวณผิวหนังดังกล่าวจะเกิดปฏิบัติการทางพยาธิวิทยาดังนี้:-
1. บริเวณผิวหนังถูกกระตุ้นถูกกดดันผลักดันเลือดลมให้ไหลเวียนเข้ามาหล่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น
2. ผลักดันให้จุดต่างๆของเส้นลมปราณเซลล์ของเส้นประสาทเซลล์ของเลือดเพิ่มประสิทธิภาพงานทางด้านพยาธิวิทยา
3. ผลักดันให้เม็ดเลือดขาวเคลื่อนตัวเข้ามากำจัดสิ่งแปลกปลอมสารพิษเชื้อโรคของเสียต่างๆเหล่านี้ถูกขจัดออกจากผนังของหลอดเลือดประสานกับความกดดันของถ้วยดูด
4. การปฏิบัติงานของผิวหนังของเสียสารพิษบางส่วนจะถูกดูดออกจากรูขุมขนของผิวหนังโดยตรงสะท้อนออกเป็นไอน้ำหยดน้ำเกาะติดอยู่กับผนังของถ้วยดูดบางส่วนจะถูกดูดมาเกาะติดอยู่กับผิวหนัง
5. ของเสียหรือสารพิษจะถูกขจัดออกจากร่างกายพร้อมกับเหงื่อหรือสลายไปตามเลือดลมที่หมุนเวียนอยู่ในระบบหลอดเลือดถูกขับออกจากร่างกายโดยทางปัสสาวะและอุจจาระ
6. ของเสียสารพิษต่างๆถูกขจัดออกจากผนังหลอดเลือดผนังหลอดเลือดขยายกว้างขึ้นเลือดลมไหลเวียนอยู่ในระบบหลอดเลือดถูกปรับเข้าสู่การหมุนเวียนอย่างมีระเบียบ
7. อวัยวะต่างๆภายในร่างกายได้รับเลือดลมมาหมุนเวียนหล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอปรับการปฏิบัติหน้าที่งานเข้าสู่ปกติและมีประสิทธิภาพทั่วทั้งร่างกายก็จะถูกปรับเข้าสู่สมดุล
ประโยชน์ที่จะได้รับจากการครอบแก้วในการบำบัดรักษาโรค
1 มีผลต่อการเสริมสร้างสุขภาพต่อการป้องกันโรค หลังจากของเสียสารพิษต่าง ๆ
ในร่างกายถูกดึงดูดออกจากร่างกายบริเวณผิวหนังส่วนต่าง ๆ ในร่างกายก็จะได้รับเลือดมาหล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ การปฏิบัติหน้าที่งานที่พยาธิวิทยาของผิวหนังก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพของเสียสารพิษต่าง ๆ ภายนอกจะไม่สามารถแทรกซึมผ่านเข้าผิวหนังได้ง่าย ภูมิคุ้มกันร่างกายก็จะแข็งแรงดีขึ้น
2 มีผลต่อการบำบัดโรคต่าง ๆ ในการครอบแก้วนี้ได้ผลคล้ายคลึงกับผลจากการ
นวดกดจุดสะท้อนฝ่าเท้า และนวดกดจุดตามเส้นลมปราณ ทำให้เกิดผลต่อการกระตุ้นปลุกเร้าถึงเซลล์ของเส้นประสาท ผลักดันให้เซลล์ประสาทปฏิบัติหน้าที่งานอย่างกระฉับกระเฉง และผลักดันให้เลือดไหลเวียนในหลอดเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลทำให้ผนังหลอดเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายด้วยวิธีการนี้จะทำให้เลือดที่คลั่งบริเวณจุดที่ปวดเกิดการไหลเวียนที่ดีขึ้น การส่งผ่านออกซิเจนไปยังจุดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ส่งผลให้อาการปวดทุเลาลง
โรคหรืออาการที่รักษาด้วยการครอบแก้ว
การครอบแก้วสามารถแก้อาการต่าง ๆ ดังนี้:-
- ไข้หวัด - ท้องผูก
- ปวดศีรษะ - นอนไม่หลับ
- โรคกระเพาะอาหาร - ความดันโลหิตสูง
- เบาหวาน - อัมพาต
- ไหล่ติด - ปวดเอว
- ไซนัส - คออักเสบ
- สิว - เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- ต่อมลูกหมากโต - วัยทอง
- ปวดประจำเดือน - อ้วน
- ปวดคอ บ่า ไหล่ - กรดไหลย้อน
ครอบแก้วทำได้ทั้งบริเวณหลัง หน้าท้อง หน้าอก ขา แขน หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่มีพื้นที่ในการวางครอบแก้ว และอวัยวะต่าง ๆ ที่มีอาการเจ็บปวด
ขั้นตอนและวิธีการบำบัดการครอบแก้ว
1. แพทย์จะตรวจหรือวินิจฉัยอาการเพื่อหาสาเหตุของการเกิดโรคเสียก่อน ด้วยวิธีศาสตร์การแพทย์แผนจีน
2. นำเอาถ้วยแก้วที่เตรียมไว้แล้วและนำสำลีมาชุบแอลกอฮอล์ไปจุดไฟ แล้วนำไฟเข้าไปใส่ในถ้วยแก้ว เพื่อให้ภายในภาชนะนั้นเกิดระบบสุญญากาศ แล้วจึงรีบนำไปคว่ำไว้ยังอวัยวะต่าง ๆ ที่ต้องการของผู้ป่วย จากนั้นกล้ามเนื้อและผิวหนังก็จะถูกดูดหรือดึงขึ้นด้วยระบบสุญญากาศภายในภาชนะจนนูนขึ้นและผิวหนังก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีต่าง ๆ (อาจมีการใช้น้ำมันสมุนไพรทาผิวก่อนที่จะครอบแก้ว เพื่อให้การเคลื่อนแก้วเป็นไปโดยง่ายขึ้น)
3. การครอบแก้วแต่ละครั้ง จะมีระยะเวลาประมาณ 10-15 นาที ซึ่งแต่ละคนก็จะมีสีผิวหนังที่แตกต่างกันออกไปตามอาการและการสะสมของสารพิษ เช่น อาจจะมี สีแดง สีน้ำตาล สีม่วง สีดำ เป็นต้น และสีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นก็จะค่อย ๆ เลือนรางจางหายไปภายใน 5-7 วัน สีของผิวที่ถูกครอบแก้วยังสามารถบ่งบอกถึงความรุนแรงและการปวดของบริเวณนั้น ๆ ได้อีกด้วย
ข้อห้าม ข้อควรระวัง
ปกติ 90% ของคนทั่วไป สามารถรับการรักษาแบบครอบแก้วได้
แต่กลุ่มคนที่ไม่ควรรับการรักษาด้วยวิธีนี้คือ สตรีมีครรภ์ในช่วงอายุครรภ์ 1-4 เดือน เพราะเมื่อตัวอ่อนในครรภ์เจอความร้อนหรือเกิดแรงกระตุ้นมาก ๆ
อาจทำให้เกิดการฝ่อหรือหลุดได้ และอีกกลุ่มคือ ผู้ที่มีอาการติดเชื้อบริเวณผิวหนัง เพราะถึงแม้จะมีการทำความสะอาดอุปกรณ์มากเพียงใด แต่ถ้ามีโรคติดต่อหรือเชื้อโรคอยู่
การครอบแก้วก็อาจไปกระตุ้นให้เชื้อโรคนั้นเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
ระยะเวลาในการบำบัด
ในการบำบัดขึ้นอยู่กับอาการและดุลพินิจของแพทย์ โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ควรบำบัดและรักษาเป็นชุด เพื่อให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรทำควบคู่กับการฝังเข็ม
1 ชุดการรักษา เท่ากับ 10 ครั้ง
ค่าใช้จ่ายในการบำบัดครอบแก้ว
ครอบแก้ว 1 ครั้ง ราคา 300 บาท
Read more